ร่องใต้ตาลึกเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรให้กลับมาสดใส

ร่องใต้ตาลึก เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรให้กลับมาสดใส

เคยสังเกตตัวเองไหม แม้นอนหลับเต็มอิ่ม แต่หน้ากลับดูเหนื่อยล้าและอายุมากกว่าความเป็นจริง สาเหตุหลักมักมาจาก ร่องใต้ตาลึก ซึ่งเหมือนเงาที่ทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ ทำให้หลายคนต้องพึ่งคอนซีลเลอร์หนาเป็นพิเศษทุกเช้า

แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ Classcare Clinic ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของร่องใต้ตา และวิธีแก้ไขที่ช่วยให้ดวงตากลับมาสดใส เปล่งประกายอีกครั้ง อ่านต่อเพื่อรับเคล็ดลับง่าย ๆ ที่คุณทำได้เลย

ร่องใต้ตาคืออะไร?
ปุ่ม Phone Classcare
ปุ่ม Line Classcare
ปุ่ม Messenger Classcare

ร่องใต้ตาคืออะไร?


ร่องใต้ตา คือ รอยลึกหรือรอยเว้าบริเวณใต้ดวงตา บางครั้งจะเห็นเป็นเส้นโค้งยาวลงมา ซึ่งเรียกว่า “ร่องน้ำตา” (Tear Trough) เมื่อเกิดร่องลึกบริเวณนี้ จะทำให้เกิดเงาตกลงบนผิวใต้ตา ทำให้ดูเหมือนขอบตาดำคล้ำกว่าความเป็นจริง

ถ้าร่องใต้ตาเกิดร่วมกับถุงใต้ตา ก็จะยิ่งมองเห็นชัดขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูเหนื่อย โทรม และดูมีอายุมากขึ้นค่ะ

ร่องใต้ตาลึก เกิดจากอะไร


ร่องลึกบริเวณใต้ตาเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  1. กรรมพันธุ์ บางคนเกิดมามีกระดูกเบ้าตาลึก หรือมีไขมันแก้มน้อย ทำให้ร่องใต้ตาชัด แม้อายุยังน้อย
  2. อายุมากขึ้น กระดูกใต้ตาเริ่มทรุดตัว (Bone Resorption) และเนื้อเยื่อกับไขมันที่รองรับผิวฝ่อลง ทำให้ร่องลึกชัดขึ้น
  3. ไขมันใต้ตาน้อย ไขมันช่วยให้ผิวดูอิ่ม ถ้าหายไปจากพันธุกรรมหรือการลดน้ำหนักเร็ว ผิวจะติดกับกระดูก ทำให้เห็นร่องชัด
  4. คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง โปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวเด้งกระชับลดลง ผิวใต้ตาที่บางอยู่แล้วจึงหย่อนง่ายและร่องลึกขึ้น
  5. มลภาวะและสภาพอากาศ แสงแดด ฝุ่นควัน ทำร้ายผิวสะสม ทำให้ผิวแห้งกร้านและเหี่ยวย่น
  6. ขยี้ตาบ่อย ๆ การเสียดสีทำลายเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวช้ำและเกิดร่องลึกถาวร
  7. ภูมิแพ้ คนเป็นภูมิแพ้จมูกมักคันตา ขยี้ตาบ่อย และระบบไหลเวียนเลือดรอบดวงตาไม่ดี ทำให้ใต้ตาคล้ำและลึกขึ้น
  8. ขาดวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน C, E, K ที่ช่วยเรื่องความแข็งแรงของผิวและหลอดเลือด
  9. ไซนัสอักเสบ อาการอักเสบเรื้อรังบริเวณโพรงจมูกและใต้ตา ทำให้เกิดการบวมช้ำและร่องลึก
ศัลยกรรมถุงใต้ตาผู้ชาย

4 วิธีทางการแพทย์แก้ปัญหา ร่องใต้ตาลึก


เมื่อการดูแลผิวด้วยครีมยังไม่เพียงพอ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ปัญหาร่องใต้ตาลึกได้ตรงจุดและเห็นผลชัดเจน เราขอแนะนำ 4 วิธีดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

วิธีนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยม แพทย์จะฉีดสาร Hyaluronic Acid (HA) เติมเต็มร่องใต้ตาที่ลึก เพื่อทดแทนเนื้อเยื่อหรือกระดูกที่ยุบตัวลง ผลลัพธ์คือร่องใต้ตาดูลดลง ดวงตาดูเต็มอิ่ม ใบหน้าสดใสขึ้น และผิวใต้ตาชุ่มชื้นขึ้นด้วย การทำหัตถการเจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลทันที เหมาะกับผู้ที่ใต้ตาลึกจากกระดูกทรุดหรือไขมันใต้ตาฝ่อตัว

ฉีดไขมันเติมเต็มใต้ตา

สำหรับคนที่อยากได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน แพทย์จะใช้วิธี Micro Fat Transfer โดยดูดไขมันส่วนเกินจากร่างกาย เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา แล้วฉีดกลับไปเติมเต็มร่องใต้ตา ข้อดีคือเป็นเซลล์ของร่างกายเอง ลดความเสี่ยงแพ้ และเมื่อเซลล์ติดสมบูรณ์ จะอยู่ได้นานหลายปี พร้อมฟื้นฟูและปรับผิวใต้ตาให้ดูอ่อนเยาว์

ยกกระชับรอบดวงตา

ถ้าร่องใต้ตามีสาเหตุจาก ผิวหย่อนคล้อย การใช้เครื่องมือยกกระชับ เช่น HIFU, Thermage, หรือ Ulthera จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวใต้ตาตึงขึ้น ลดริ้วรอย และช่วยพยุงผิวไม่ให้หย่อนเป็นร่อง วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไม่มาก หรือใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ผ่าตัดแก้ไขร่องใต้ตา

วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหารุนแรง หรือมีถุงใต้ตาขนาดใหญ่ร่วมด้วย การผ่าตัด Fat Repositioning เป็นวิธีลดถุงใต้ตา ที่ช่วยย้ายไขมันส่วนเกินจากถุงใต้ตาไปเติมเต็มร่องลึกด้านล่าง ทำให้ผิวใต้ตาเรียบเนียนและสมดุล เป็นการแก้ไขครบวงจร (2 in 1) เพราะสามารถกำจัดถุงใต้ตาและเติมเต็มร่องลึกได้พร้อมกัน ผลลัพธ์ถาวรและเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด

วิธีป้องกันการเกิดร่องใต้ตาลึก


เพื่อช่วยให้ดวงตาดูสดใส ลดความลึกของร่องใต้ตา สามารถทำตามวิธีเหล่านี้ค่ะ

  • ทาอายครีมบำรุงรอบดวงตา
    เลือกครีมที่มี Hyaluronic Acid, Peptide หรือ Retinol เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • ประคบเย็นเพื่อลดบวม
    หากวันไหนร้องไห้หนักหรือนอนดึก ตื่นมาตาบวม ให้ประคบเย็นช่วยลดบวมและให้หลอดเลือดหดตัว
  • บำรุงใต้ตาอย่างสม่ำเสมอ
    มาส์กตาด้วยแผ่นเจล หรือใช้แตงกวา ช่วยเพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตา
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    ผิวที่ขาดน้ำจะแห้งและเหี่ยวง่าย ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วช่วยให้ผิวใต้ตาอิ่มน้ำและยืดหยุ่นดี
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
    นอน 6-8 ชั่วโมงช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง พยายามหลีกเลี่ยงการนอนดึก
  • หลีกเลี่ยงการถูหรือขยี้ตาแรง ๆ
    ผิวรอบตาบอบบางมาก เวลาล้างหน้าเช็ดเครื่องสำอาง ควรเบามือที่สุด
  • ป้องกันแสงแดด
    สวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ทำลายโครงสร้างผิว
  • ปรับอาหารและไลฟ์สไตล์
    ลดอาหารรสเค็มจัด งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำลายคอลลาเจนและทำให้ใต้ตาคล้ำ

สรุป


แม้ร่องใต้ตาลึก จะดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่ก็ส่งผลต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพไม่น้อยเลยค่ะ การเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงช่วยให้เลือกวิธีแก้ไขได้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมประจำวัน หรือใช้หัตถการทางการแพทย์ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือเติมไขมันใต้ตา ก็สามารถคืนความสดใสให้ดวงตาคู่สวยได้ทันที

หากยังไม่แน่ใจว่าปัญหาของคุณเหมาะกับวิธีไหน หรืออยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์โครงหน้าอย่างละเอียด Classcare Clinic พร้อมดูแลด้วยทีมแพทย์มากประสบการณ์และเครื่องมือทันสมัย เราใส่ใจทุกขั้นตอน เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัยที่สุด อย่าปล่อยให้ร่องใต้ตาพรากความสดใสจากคุณ ทักมาปรึกษาเราได้วันนี้ เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้ดวงตากันค่ะ!

ด้วยความห่วงใยจาก CLASSCARE CLINIC คลินิกศัลยกรรมความงามที่มี
มาตรฐานความปลอดภัย และใส่ใจคุณลูกค้า

FAQ


ส่วนใหญ่เกิดจากพันธุกรรมค่ะ บางคนมีกระดูกเบ้าตาลึก โหนกแก้มแบน หรือไขมันหน้าแก้มน้อยตั้งแต่กำเนิด ทำให้ผิวหนังยุบตามร่องกระดูกได้ง่าย จึงเห็นใต้ตาลึกตั้งแต่อายุน้อยกว่าคนที่โครงหน้าเต็มอิ่ม

ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้สารสังเคราะห์ (Hyaluronic Acid) เห็นผลทันที เจ็บน้อย และไม่ต้องพักฟื้น แต่จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ต้องเติมซ้ำ ส่วนเติมไขมันใต้ตา ใช้ไขมันตัวเอง มีขั้นตอนดูดไขมันและฉีดกลับ ต้องพักฟื้นนานกว่า แต่ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้หลายปี (กึ่งถาวร) เมื่อไขมันติดดีแล้วค่ะ

เหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาขนาดใหญ่ ไขมันป่องร่วมกับร่องน้ำตาลึก หรือผู้ที่หนังตาหย่อนมาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์อาจช่วยได้ไม่เต็มที่ การผ่าตัดจัดเรียงไขมัน (Fat Repositioning) จะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดและถาวรกว่าค่ะ

สามารถเริ่มเห็นตั้งแต่วัยรุ่น (กรณีพันธุกรรม) แต่ส่วนใหญ่จะชัดเจนขึ้นช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งกระดูกเปลี่ยนแปลง คอลลาเจนลดลง และไขมันฝ่อตัวตามธรรมชาติ

โดยปกติ ร่องใต้ตาโบ๋จากโครงสร้าง (กระดูกยุบ ไขมันฝ่อ) ไม่หายเองค่ะ การทาครีมหรือพักผ่อนอาจช่วยให้ผิวสดใสขึ้นในระดับผิวชั้นบน แต่ไม่สามารถเติมเต็มร่องลึกได้ ต้องอาศัยวิธีทางการแพทย์เข้าช่วย


ปุ่ม Phone Classcare
ปุ่ม Line Classcare
ปุ่ม Messenger Classcare