สาเหตุของภาวะตาปรือ รู้ก่อนแก้ไขได้ทัน

สาเหตุของภาวะตาปรือ ปัญหาใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม! จริง ๆ แล้วมันเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะอายุที่มากขึ้น หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ แต่ถ้าปล่อยไว้นาน อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้นะ! ถ้าไม่อยากให้ตาปรือจนแก้ยาก ลองมาเช็กกันหน่อยว่าเพื่อน ๆ เสี่ยงแล้วหรือยัง? วันนี้ Classcare Clinic รวมวิธีแก้ไขมาให้ครบ รีบดูเลยก่อนจะสายไป!

ภาวะตาปรือ เป็นเเบบไหน?

ภาวะตาปรือ (Ptosis) คืออาการที่เปลือกตาบนตกลงมาจนคลุมตามากเกินไป ทำให้ตาดูง่วง ๆ ลืมตาไม่สุด หรือที่แย่กว่านั้น อาจมีผลต่อการมองเห็นด้วย! สาเหตุก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรง หรือปัญหาทางเส้นประสาทที่ควบคุมการเปิดตา ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตา หรือกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันได้เลยนะ!

สาเหตุของภาวะตาปรือ

ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นตาปรือ? มาดูกันเลยว่าเพื่อน ๆ คนไหนเข้าข่ายบ้าง!

อายุมากขึ้น พออายุเพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อตาก็เริ่มอ่อนแรง หนังตาหย่อนลงมาตามแรงโน้มถ่วงแบบไม่รู้ตัว!
กรรมพันธุ์ ถ้าพ่อแม่หรือญาติ ๆ มีปัญหานี้ เราเองก็มีสิทธิ์รับมรดก “ตาปรือ” มาแบบไม่ต้องลุ้นเลยจ้า!
ใช้สายตาหนักเกินไป วัน ๆ นั่งจ้องจอมือถือละสายตาไม่ได้ หรือใส่คอนแทคเลนส์ทุกวันโดยไม่ให้ตาพักบ้าง เสี่ยงมากก!
เคยผ่าตัดตาหรือทำตาสองชั้นมาก่อน ศัลยกรรมตาบางเคสอาจทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงโดยไม่รู้ตัว ผลคือ ตาปรือมาเยือนแบบงง ๆ
โรคทางระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ เช่น Myasthenia Gravis (MG) ทำให้กล้ามเนื้อตาไม่มีแรง ยกเปลือกตาไม่ขึ้น
โรคเกี่ยวกับดวงตา ตากุ้งยิงเรื้อรัง เปลือกตาอักเสบ หรือมีเนื้องอกบริเวณเปลือกตา ก็เป็นสาเหตุให้ตาปรือได้เหมือนกัน
เส้นประสาทผิดปกติ อย่าง อัมพาตเส้นประสาทสมองคู่ที่ 3 (Third Nerve Palsy) ที่ทำให้เปลือกตาไม่สามารถยกขึ้นได้
อุบัติเหตุหรือได้รับแรงกระแทกที่ดวงตา ถ้าเคยโดนกระแทกแรง ๆ จนกล้ามเนื้อตาได้รับความเสียหาย ก็อาจทำให้ตาปรือไปถาวรเลยนะ
ใส่คอนแทคเลนส์ผิดวิธี โดยเฉพาะพวกที่ใส่แบบแข็ง หรือถอด-ใส่แบบกระชาก อาจทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้าเร็วขึ้น!
พฤติกรรมที่ทำร้ายดวงตาโดยไม่รู้ตัว เช่น ขยี้ตาบ่อย ๆ, ใส่คอนแทคเลนส์นอน, แต่งหน้าหนักแล้วเช็ดแรง ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักเกินไปจนล้า!

วิธีสังเกตว่าเรามีภาวะตาปรือหรือไม่?

การสังเกตว่าตัวเองมีภาวะตาปรือหรือไม่นั้นไม่ยากเลยจ้า ลองเช็กดูจากลักษณะและอาการเหล่านี้

ดวงตาดูง่วงตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้เหนื่อยหรือง่วงจริง ๆ แต่เปลือกตากลับตกจนดูเหมือนง่วงอยู่ตลอด
ลืมตาได้ไม่เต็มที่ รู้สึกว่าการลืมตาดูไม่สุดเหมือนปกติ เหมือนมีอะไรหนัก ๆ มาคลุมตาไว้
ตาดูไม่เท่ากัน สังเกตได้จากการถ่ายรูปหรือมองกระจก บางทีตาข้างหนึ่งอาจดูปิดมากกว่าอีกข้าง
ต้องยกคิ้วช่วยเปิดตา ถ้าเพื่อน ๆ ต้องยกคิ้วหรือเลิกหน้าผากขึ้นเพื่อให้มองเห็นชัดขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหาเปลือกตาตก
เริ่มมีปัญหาในการมองเห็น หากเปลือกตาบนตกลงมาคลุมดวงตามากเกินไป อาจเริ่มรู้สึกว่าการมองเห็นไม่สะดวก และต้องเงยหน้าหรือเอียงคอเพื่อมองสิ่งต่าง ๆ

วิธีการรักษาตาปรือด้วยการผ่าตัด

การผ่าตัดคือทางเลือกเด็ดในการรักษาภาวะตาปรือที่ได้ผลดี! แล้วมีเทคนิคอะไรบ้างในการแก้ตาปรือ มาดูกันเลยค่ะ!

กรีดยาว

สำหรับใครที่มีปัญหา เปลือกตาหย่อน ไขมันเยอะ ชั้นตาหลบใน เทคนิคกรีดยาว นี่แหละช่วยได้! คุณหมอจะกรีดแผลยาวตั้งแต่หัวตาไปถึงหางตา เอาไขมันส่วนเกินออก แล้วจัดโครงสร้างชั้นตาใหม่ให้เป๊ะกว่าเดิม

ชั้นตาชัดขึ้นแบบถาวร
แก้ปัญหาตาปรือ ตาหลบในได้อยู่หมัด
ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ
ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง

เเก้กล้ามเนื้อตาอ่อนเเรง

ถ้าตาปรือเพราะ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง วิธีนี้คือ ทางออกที่ใช่! คุณหมอจะเริ่มจากการเช็กระดับความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับตำแหน่งกล้ามเนื้อตาให้เหมาะสม เพื่อให้เปลือกตายกขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ

ช่วยให้ตาเปิดกว้างขึ้น ดูสดใสขึ้น
ชั้นตาเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอก
แก้ปัญหาตาปรือแบบตรงจุด
ส่วนใหญ่มักทำควบคู่กับการทำตาสองชั้น เพื่อให้ดวงตาดูสวยเป๊ะยิ่งขึ้น!

สรุป

สาเหตุของภาวะตาปรือเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่คิด! ไม่ว่าจะจากอายุที่เพิ่มขึ้น, กรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรมทำร้ายดวงตา ถ้าปล่อยไว้ นอกจากจะส่งผลต่อการมองเห็นแล้ว ยังทำให้ตาดูง่วง ดูไม่สดใสอีกด้วย! วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือการทำตาสองชั้นเทคนิคกรีดยาว ร่วมกับการแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ถ้าอยากให้ตาสดใส ดูเด็กลง ลองมาปรึกษาที่ Classcare Clinic ได้น้าาา แอดมินรอตอบอยู่ทุกช่องทางเลยจ้า!

ด้วยความห่วงใยจาก CLASSCARE CLINIC คลินิกศัลยกรรมความงามที่มี
มาตรฐานความปลอดภัย และใส่ใจคุณลูกค้า

จำนวนผู้สนใจ : 250

เช็กก่อนสายไป! ใครบ้างเสี่ยงเป็นภาวะตาปรือ พร้อมสาเหตุและคำตอบที่ควรรู้